5 กิจกรรมสุดเจ๋ง…ที่เพิ่มพลังกายพลังใจให้ผู้ใช้งานวีลแชร์ และครอบครัว !

รถเข็นวีลแชร์ ergo lite น้ำหนักเบา พับได้

               ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า..

การที่คนๆ หนึ่งต้องใช้เวลานั่งอยู่กับที่นานๆ โดยไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำมากมาย ย่อมส่งผลต่อสุขภาพทางกาย และใจในทางที่ไม่ดีนัก ไม่ว่าเป็นการนั่งนาน จนแทบไม่ได้ขยับ ก็จะทำให้ร่างกายเกิดแผลกดทับบริเวณสะโพกได้ หรือแม้กรทั่งความรู้สึกทางใจ ก็อาจจะก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายได้ เพราะนั่งเพียงอย่างเดียว ไม่มีกิจกรรมที่น่าสนใจใดๆ ให้ผู้ที่นั่งๆ นานได้ทำ

                จะดีกว่ามั้ย…ถ้าระหว่างที่นั่งนานๆ ผู้นั่งวีลแชร์ กับผู้ดูแล หรือคนในครอบครัว แบ่งเวลาส่วนหนึ่งมาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้ผู้นั่งรถเข็นได้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ และที่สำคัญยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวกันได้ด้วยครับ

                ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มดูกันเลยครับว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างที่น่าสนใจครับ !

 

1. ออกกำลังกายสมองด้วยการเล่นเกมส์เถอะ

Asian elderly couple using tablet and virtual reality simulator playing games in living room Free Photo
ภาพจาก: freepik.com

                ใช่แล้ว ! คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ การเล่นเกมส์ก็เป็นการกำลังกาย ให้สมองได้มีการคิด พัฒนาอยู่เสมอๆ แต่เกมส์ที่ว่านี้ อาจจะไม่ใช่พวกเกมส์แนวตีรันฟันแทงนะครับ เพราะเกมส์ประเภทนั้น อาจทำให้ผู้เล่นบางท่านเครียดแทนก็เป็นได้ครับ (เช่นผู้เขียนนี่เอง) เกมส์ที่เหมาะแก่ผู้ใช้งานวีลแชร์ ละครอบครัว โดยเหมาะที่จะเล่นร่วมกันเพื่อผ่อนคลาย จะเป็นเกมส์ประเภท ปลูกผัก ทำฟาร์ม หรือเกมจำลองสถานการ์อย่างเกมเดอะซิมครับ ผู้นั่งวีลแชร์กับครอบครัวก็อาจจะร่วมกันคิดว่าจะปลูกผักสร้างฟาร์มอย่างไรให้ทำกำไรได้ หรือจะสร้างบ้านอย่างไรในเกมซิม เป็นต้นครับ หรือถ้าจะเล่นเกมส์ เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาก็จะเป็นพวกเกมส์ Puzzle Words เช่น wordle หรือ พวกเกมซูโดกุเพื่อพัฒนาตรรกะทางความคิดครับ

                จริงๆ ในโลกของเกมส์ ยังมีเกมส์ที่น่าสนใจอีกหลายประเภทที่สามารถใช้เวลาร่วมกันกับคนในครอบครัวได้ครับ ลองดูเกมส์เพิ่มเติมได้ที่ steam ครับ

2. ฝึกสมาธิ ฝึกสติเนี่ยแหละ เพิ่มพลังทางใจสุดๆ

Full shot woman meditating Free Photo
ภาพจาก: freepik.com

         “เอ๊ะ! ฝึกสมาธิมันก็คือการนั่งเฉยๆ ไม่ใช่หรอ?” หากคุณเกิดคำถามนี้ในใจ ผู้เขียนก็ขอตอบว่า ครับ ค่อนข้างใกล้เคียงกับการนั่งเฉยๆ แต่ทว่า การฝึกสมาธิ คือเราฝึกให้เราจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยไม่จำเป็นที่เราจะนั่งขัดสมาธิครับ เช่น การฝึกสมาธิโดยเพ่งที่ลมหายใจเข้าออกของเรา ในระหว่างที่เราเพ่งลมหายใจเข้าออก เราก็จะโฟกัสกับลมหายใจเป็นหลัก นั่นแหละครับ สิ่งที่เราได้คือ การโฟกัส การมีสติ และรับรู้ตัวเองว่าเรากำลังทำอะไร ณ เวลานั้นครับ

        ผู้เขียนเคยได้ฟังเกี่ยวกับการฝึกสมาธิจากผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งมาครับ มีคนถามท่านผู้นั้นว่า หากตัวเขาต้องการที่จะนั่งสมาธิเพื่อให้เข้าถึงชาญ สามารถทำได้มั้ย ท่านผู้เชี่ยวชาญก็ตอบไปประมาณว่า อันที่จริงคนเราไม่จำเป็นต้องฝึกสมาธิเพื่อให้ได้ชาญ แต่สิ่งที่สำคัญคือ “การฝึกให้ตัวเองมีสติในการรับรู้การกระทำตัวเองในทุกขณะจิต” เป็นประโยคที่ยังตราตรึงใจผู้เขียนมาถึงทุกวันนี้เลยครับ

        ฉะนั้นแล้ว กิจกรรมที่จะช่วยให้ผู้นั่งรถเข็นมีพลังทางใจมากขึ้น ทางผู้ดูและ หรือคนในครอบรัว อาจจะชวนกันมาใช้เวลาสักวันละ 15 – 20 นาที (จะได้ไม่เครียดจนเกินไปครับ) ในการชวนกันฝึกสมาธิ ฝึกสติครับ เช่น ชวนกันฝึกกำหนดลมหายใจ สวดมนต์ อ่านหนังสือ หรือชมคลิปสอนฝึกสมาธิทางช่อง YouTube ซึ่งมีหลายช่องที่สอนได้น่าสนใจ ลองดูกันนะครับ

3. เปลี่ยนบรรยากาศสูดอากาศสักหน่อย

         ไม่ว่าจะเป็นการสูดอากาศเย็นๆ ตอนเช้าจากริมสวน หรืออากาศร้อนๆ แต่มีกลิ่นไอทะเล ผู้เขียนเชื่อว่า ผู้ที่ได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ จะได้รับพลังจากสถานที่เรานั้นเพื่อขับเคลื่อนชีวิตครับ เช่น วันหยุดที่จะถึงนี้ มีดนตรีในสวน คุณก็อาจจะพากันทั้งครอบครัวไปปิคนิคในสวนสาธารณะ เพื่อเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งต่อตัวผู้นั่งรถเข็นเอง หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัว หากสวนสาธารณะไม่ใช่แนวทางของครอบครัว ก็อาจจะลองไปพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในประเทศ เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชายทะเลบางแสน ท้องฟ้าจำลอง เป็นต้น

         สถานการณ์โควิดดีขึ้นกว่าในช่วงแรกๆ ทำให้มีหลายประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว หากผู้อ่านมีงบประมาณสูง ชวนครอบครัวไปสูดอากาศ ท่องเที่ยวที่ต่างประเทศก็เยี่ยมไปเลยครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องวีลแชร์จะขึ้นเครื่องบินได้มั้ย วีลแชร์สามารถโหลดไปกับเครื่องบินได้ครับ และยิ่งวีลแชร์ที่มีน้ำหนักเบาอย่าง Ergo Lite เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการท่องเที่ยวครับ

 

4. ออกกำลังกายวันละนิด จิตแจ่มใส

Medium shot man playing basketball Free Photo
ภาพจาก: freepik.com

         ลองนึกภาพนะครับ ตัวเราเองเวลานั่งเก้าอี้นานๆ เรายังต้องบิดตัวไปมา หรือลุกเดินเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยจากการนั่งนานๆ แล้วผู้ที่ต้องนั่งวีลแชร์นานๆ จะเมื่อยกว่าเราขนาดไหนกันนะ ? สิ่งที่จะช่วยบรรเทาความเมื่อยล้า หรือแผลกดทับของผู้นั่งวีลแชร์เป็นเวลานานได้ คือการให้ผู้ใช้งานได้ขยับท่าทางครับ โดยผู้ดูแล หรือครอบครัวสามารถมีส่วนร่วมในการการออกกำลังกายนี้ได้ด้วย เช่น ชวนกันออกกำลังกายส่วนบน ทำท่าทางไปพร้อมๆ กัน หรือแม้กระทั้งผู้ดูแลช่วยขยับในส่วนที่ผู้ใช้งานวีลแชร์อ่อนแรง (แต่อาจจะต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ นะครับว่า ผู้นั่งวีลแชร์ท่านนี้ เหมาะกับการขยับร่างกายส่วนใดบ้าง ส่วนใดเราไม่ควรขยับ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานครับ) นอกจากการออกกำลังกายแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ผู้นั่งวีลแชร์รู้สึกผ่อนคลายได้ก็คือ “ลักษณะที่นั่ง”

        วีลแชร์ของคาร์ม่า รุ่นที่มีคำว่า Ergo เป็นรุ่นที่ออกแบบที่นั่งเป็นรูปตัว S เพื่อรองรับสะโพกผู้ใช้งาน และบรรเทาการเกิดแผลกดทับครับ โดยสิทธิบัตรการออกแบบเก้าอี้วีลแชร์แบบนี้ มีเฉพาะที่คาร์ม่าเท่านั้นครับ หากต้องนั่งในแต่ละครั้งเกิน 30 นาทีขึ้นไป ที่นั่งรูปตัว S ตอบโจทย์มากๆ ครับ

5. เสียงเพลง และคาราโอเกะ จะเยียวยาคุณเอง !

Dad is sitting with a guitar and daughter with a microphone Free Photo
ภาพจาก: freepik.com

       ในมุมมองของผู้เขียนเชื่อว่า ดนตรีคือศิลปะการบำบัดทางใจที่ดีมากๆ เลยครับ เวลาอกหักก็มีเพลงปลอบใจ เวลาอินเลิฟก็มีเพลงเพิ่มพลังความคลั่งรักเข้าไปอีก นั่นแหละครับ เพลงมีอิทธิพลต่อความรู้สึกคนเราในระดับหนึ่งเลย

       หากผู้นั่งวีลแชร์เป็นคนชอบฟังเพลง ร้องเพลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การพาผู้นั่งรถเข็นเข้าสู่โลกดนตรี จะช่วยให้จิตใจของพวกเขาเบิกบานยิ่งขึ้นๆ ไปครับ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นดนตรีด้วยกันที่บ้าน การเปิดคาราโอเกะร้องด้วยกันที่บ้าน หรือจะไปเปิดห้องคาราโอเกะร้องเพลงกันที่ร้านอาหาร* ก็จะช่วยให้เพิ่มพลังใจ เพิ่มความสุขได้แบบสุดๆ ไปเลยครับ

*ผู้เขียนพยายามนึก และค้นหาร้านที่อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้งานรถเข็นในกรุงเทพฯ แล้ว ยังหาไม่เจอครับ หากท่านใดมีร้านแนะนำ ไม่ว่าจะกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด แจ้งไว้ที่แฟนเพจคาร์ม่าได้เลยนะครับ

 

 

         จากทั้ง 5 กิจกรรมที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียน หวังว่าผู้อ่านจะรับประโยชน์จากบทความนี้นะครับ หากผู้อ่านมีกิจกรรมที่น่าสนใจใดๆ เพิ่มเติม ก็สามารถแนะนำมาที่แฟนเพจของคาร์ม่าได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยคร้าบบบ 😊

 

 

เพราะเราเชื่อมั่นว่า “เราจะนำเสนอรถเข็นวีลแชร์ และอุปกรณ์ช่วยเดินที่ “ลงตัว” ที่สุดแก่ผู้บริโภคบนพื้นฐานของ “กลยุทธ์สามด้าน” ซึ่งเหนือกว่าความต้องการขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค ช่วยให้การใช้ชีวิตของเพื่อนๆ ที่เคลื่อนไหวไม่สะดวก มีความสมบูรณ์หลากหลาย” นี่ก็คือแกนของปรัชญาการดำเนินธุรกิจและพันธกิจองค์กรของคาร์ม่า

ติดตาม และรับข่าวสารอัพเดทกับทางคาร์ม่า โมบิลิตี้ร์ ได้ทาง 
Facebook: Karma Wheelchair Thailand
Line OA: @karmamedicalthai

 

 

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า